ข้อดีของการสักสีปาก

- ทำให้ปากคุณดูอมชมพูระเรื่อ อย่างเป็นธรรมชาติ แม้ไม่แต่งหน้า
- สามารถทาลิปสติกทับได้ ในวันที่ต้องการแต่งหน้า
- ช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าเพื่อซื้อลิปสติก
- เหมาะกับสาวๆที่ไม่มีเวลาในการทาลิปสติกหรือแต่งหน้าบ่อยๆ

การดูแลก่อน-หลัง การสักปาก

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ
1.ผู้ที่มีประวัติเคยเป็นเริมที่ริมฝีปาก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
2.งดการทำเลอร์เซอร์ แวกซ์ขน บริเวณรอบๆริมฝีปากก่อนเข้ารับบริการประมาณ 2 สัปดาห์
3.งดการแต่งหน้าชั่วคราวในบริเวณที่จะทำการสักก่อนเข้ารับบริการ

ขั้นตอนการสักริมฝีปาก
1.ช่างสักจะป้ายยาชา บนริมฝีปาก รอเวลาประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์
เมื่อยาชาออกฤทธิ์ ช่างสักจะเริ่มลงสี ตามที่เราต้องการ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
2.ระหว่างสัก ริมฝีปากอาจจะเจ็บหรือแสบเล็กน้อย แต่เมื่อเกิดอาการเจ็บมากกว่าปกติ สามารถบอกช่างสักให้เพิ่มยาชาได้ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ
3.เมื่อสักริมฝีปากเสร็จแล้ว ริมฝีปากจะเข้มจัดกว่าปกติ ไม่ต้องตกใจ เพราะต้องรอให้สีค่อยๆ ลอกออกก่อนเพื่อให้ได้สีตามที่เราต้องการ

วิธีดูแลหลังสักปาก
1ใช้น้ำเกลือล้างแผลทุกวันเพื่อไม่ให้ริมฝีปากอักเสบติดเชื้อ
2.กินยาแก้อักเสบควบคู่ไปด้วยแผลจะหายไว
3.หลีกเลี่ยงไปสัมผัส แกะ เกา หรือถูบริเวณริมฝีปากที่สักปากชมพู เพราะจะทำให้แผลอักเสบ
4.หลังทำควรหมั่นทาวาสลีนเพื่อบำรุงให้ริมฝีปากชุ่มชื้น
5.งดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ อาหารที่มีรสจัดและอาหารหมักดอง
6.ห้ามทาลิปสติกต้องรอให้ปากหายสนิทก่อน เพราะจะทำให้สีปากที่สักเพี้ยนไป เนื่องจากน้ำเหลืองคนเราไม่เหมือนกันบางคนหายเร็วบางคนหายช้า ขึ้นกับน้ำเหลืองและการดูแลทำความสะอาดของแต่ละคน

*** เมื่อครบ 1 เดือนควรกลับมาเติมสีอีกครั้งเพื่อความคงทนและสีติดทนนานขึ้น ****